นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ
นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ เริ่มต้นเป็นศิลปินเพลงเมื่อกลับออกมาจากป่าในช่วงเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ ได้เข้าร่วมกับวงคาราบาวโดยเดินทางร่วมแสดงคอนเสิร์ตไปด้วยกัน แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกวง จนกระทั่งคาราบาวโด่งดังจากอัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ แล้ว แอ๊ด คาราบาว(ยืนยง โอภากุล) จึงช่วยเล่นดนตรีให้กับการออกอัลบั้มชุดแรกของพงษ์เทพ คือ ชุด “ห้วยแถลง” กับเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม โดยมีจังหวะเร็กเก้สนุก ๆ กับเนื้อหาที่เสียดสีชีวิตมนุษย์ จากนั้นพงษ์เทพก็ได้เป็นศิลปินเดียว และมีชื่อเสียงในเวลาต่อมาเพลงที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันดีของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ได้แก่ คันกับหมา, ตุ๊กแก, น้ำตาหอยทาก, ต้นขับขี่, โคราชา, ตรงเส้นขอบฟ้า, คิดถึงบ้าน เจ้าสาวผู้เสือ เป็นต้น เนื้อเพลงส่วนมากพงษ์เทพจะเป็นผู้แต่งเอง โดยใช้ถ้อยคำสำนวนที่เหมือนบทกวี สมกับฉายาของตัวเอง โดยฉายา “กวีศรีชาวไร่” นี้ “นายผี” อัศนี พลจันทร ปัญญาชนนักปฏิวัติเป็นผู้ให้
นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มีชื่อเล่นว่า “หมู” จนเรียกกันติดปากว่า “น้าหมู” มีบุคลิกเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา พูดเก่ง เมื่อแสดงคอนเสิร์ตครั้งใด มักจะสร้างความสนุกให้แก่ผู้ชมด้วยการพูด ด้วยลีลาของตัวเอง จนกลายเป็นเหมือนการทอล์กโชว์กลายๆ ปัจจุบันมีบ้านและไร่ชื่อ “ดอกเหงื่อ” อยู่บริเวณเชิงเขาใหญ่ จังหวัดนครราชีสีมาที่บ้านเกิด โดยใช้ชีวิต่อย่างเรียบง่ายชอบอยู่สันโดษ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีแล้วยังก่อตั้งมูลนิธิ โดยตั้งชื่อว่า “มูลนิธิเขาใหญ่” ตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๙ จนถึงปัจจุบัน มีความประสงค์และความตั้งใจที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรบ้านเกิดของตัวเองโดยมีผู้ร่วมอุดมการณ์หลายคัน ที่ผ่านมานอกจากการเขียนเพลงและแสดงคอนเสิร์ตที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ ถึงปัจจุบันแล้ว นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ยังมีโอกาสแสดงภาพยนตร์ในเรื่อง “เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ” ในปี ๒๕๒๘ และแสดงละครชิตคอมเรื่อง “ตะกายดาว ตอน ดาวเพื่อชีวิต ในปี ๒๕๓๓ อีกด้วย
จากผลงานที่ประจักษ์ นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ หรือน้าหมูกวีศรีชาวไร่ จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงเพื่อชีวิต) พุทธศักราช ๒๕๖๕ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป