ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วีรธรรม ตระกูลเงินไทย (หัตถกรรมผ้าทอมือ)

วีรธรรม ตระกูลเงินไทย

นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๙ ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ ๒๕๕ หมู่ ๑ บ้านท่านสว่าง ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์“ผมเกิดความคิดว่า อยากจะกลับไปรื้อฟื้นเทคนิคการทอผ้าที่เราเคยเห็นตั้งแต่เด็ก พอดีได้จังหวะที่ อาจารย์สมิทธิ ศิริภัทร์ กับ คุณหญิงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ได้รับพระราชเสาวนีย์จาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ท่านทั้งสองช่วยศึกษาดูว่า ทำอย่างไรผ้าไหมถึงจะมีความนุ่มเนียนแน่น สามารถกำอยู่ในกำมือเดียวได้เหมือนผ้าสมัยก่อนที่พระองค์ท่านเคยมีเคยรู้จัก พออาจารย์เล่าให้ฟังผมถึงนึกได้ว่า ที่บ้านเกิดเคยมีการทำผ้าแบบนี้และถ้าเราไปรื้อฟื้นหาคนที่ยังมีความรู้อยู่มาช่วยกันทำก็น่าจะสำเร็จ…”

ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการรื้อฟื้นการทอผ้ายกทองแบบโบราณ จึงทำให้เกิดเป็นผ้าไหมยกทองโบราณของกลุ่มจันทร์โสมาบ้านท่าสว่าง จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้นำมาตัดเย็บชุดผู้นำประเทศในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเซีย-แปซิฟิค ปีพุทธศักราช ๒๕๔๖ (APEC 2003) และที่สำคัญคือเป็นผู้ออกแบบและจัดสร้างผ้าคลุมพระอังสาให้กับรัฐบาลเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเป็นที่ของระลึกแด่พระราชอาคันตุกะฝ่ายหญิงเนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี

อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ได้เทคนิค วิธีการ และภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทอผ้าไหมของชาวเขมรถิ่นไทย มาพัฒนาต่อยอดเป็นผ้าไหมยกทองโบราณที่มีมูลค่าและคุณค่าสูงจากฐานความเป็นอีสาน

อีกทั้งยังได้เปิดบ้านจันทร์โสมาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการทอผ้า การย้อมสีธรรมชาติ และการงานช่างไทยหลายแขนง อาทิ งานปักพัสตราภรณ์ งานช่างแกะสลัก งานช่างเครื่องทองลงยาราชาวดีเป็นต้น นับเป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่อสืบสานงานช่างโดยแท้จริง

อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นผู้เชี่ยวชาญในงานเชิงช่างหลายแขนง สามารถผสานมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวเขมรถิ่นไทย รื้อฟื้นงานหัตถศิลป์ผ้าทอยกทองโบราณของราชสำนัก เสริมสร้างเอกลักษณ์ภูมิปัญญาของชาติได้อย่างงดงาม อีกทั้งยังสามารถสร้างให้ชุมชนบ้านท่าสว่างเป็นหมู่บ้านผ้าทอที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกทำให้วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้นมาเป็นลำดับ จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาทัศนศิลป์ (หัตถกรรมผ้าทอมือ) ประจำปี ๒๕๕๗ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป