ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

นัฐธพงษ์ สร้อยสูงเนิน (สัญญา พรนารายณ์) (ขับร้องเพลงลูกทุ่ง)

นัฐธพงษ์ สร้อยสูงเนิน

สัญญา พรนารายณ์ มีชื่อจริงว่า นัฐธพงษ์ สร้อยสูงเนิน เกิดเมื่อ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ เป็นชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนคุรุสามัคคี ๑ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมามีพี่น้องรวม ๔ คน เป็นชาย ๒ และหญิง ๒ ตัวเขาเป็นลูกคนโต บิดาเป็นเจ้าของค่ายมวย และอยากให้เขาชกมวย และตัวเขาเองเมื่อสมัยเด็ก ๆ ก็เคยขึ้นชกโชว์อยู่บ้าง แต่ที่เขาชื่นชอบอย่างมากก็คือ การร้องเพลง เขาชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก จึงได้พยายามแสวงหาใฝ่ฝันในสิ่งที่ตนเองรัก เป็นนักร้องประจำโรงเรียน นอกจากนั้นก็ยังเคยตระเวนประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ มาบ้าง และในการประกวดครั้งหนึ่งที่เขาประทับใจก็คือ การไปประกวดที่จัดโดยวิทยุ วศป. ลพบุรี ซึ่งเขาเองก็สามารถชนะเลิศในการประกวดครั้งนั้น ผู้เข้าร่วมประกวดอีกท่าน ต่อมาก็กลายเป็นนักร้องดังคู่ขวัญร่วมวงดนตรีกันมา คือ “น้ำอ้อย พรวิเชียร” เนื่องจากเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการขับร้อง สัญญา พรนารายณ์เป็นนักร้องลูกทุ่งชายชื่อดังอยู่ในวงการมาหลายสิบปี มีน้ำเสียงไพเราะร้องเพลงช้าหรือที่กันว่าร้องเพลงแนวหวานได้ดีมาก เขามีเพลงที่เป็นที่นิยมในหมู่แฟนเพลงมากมาย เข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่งเมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๘ โดยสมัครอยู่กับวงดนตรี “พรนารายณ์” ของ พร พรนารายณ์ตำแหน่งนักร้อง เล่นละครหน้าเวที และช่วยเหลืองานวงทุกอย่าง ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับวง ก้าน แก้วสุพรรณ, กาเหว่า เสียงทอง และ วงทูลทองใจ

เขามีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิตชื่อ “หนุ่มชาวไร่” แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม หลังจากนั้นมาไม่นานนัก สัญญา พรนารายณ์ ก็มาโด่งดังอย่างมากกับเพลง “สัญญาเมื่อสายัณห์” เมื่อประมาณพุทธศักราช ๒๕๑๑ จากฝีมือการประพันธ์ของ “ธงชัย เล็กกำพล”ตามมาด้วยเพลงฮิตหลายเพลง อาทิ เพลงทหารบกพ่ายรัก, ลารักจากสวนแตง, จูบมัดจำ, รักคนที่เขารักเราดีกว่า, รักแรกพบ, ขอตายที่สวนแตง, เหมันต์สัญญา , นาคอนาถา และอื่น ๆ อีกมาก กลายเป็นเพลงดังอมตะจนถึงปัจจุบัน ความที่มีชื่อและมีน้ำเสียงไปพ้องและละม้ายคล้ายคลึงกับนักร้องดังแห่งยุคนั้นคือ “สายัณห์ สัญญา” ซึ่งก็เคยเป็นนักร้องอยู่วงตัวเองมาก่อนด้วย จึงสร้างความสับสนให้กับแฟนเพลงและสายัณห์ สัญญา เป็นอย่างมาก จึงเสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ สุดท้ายก็ตกลงกันได้ จึงได้เปลี่ยนชื่อจาก “สัญญา สายัณห์” มาเป็น “สัญญาพรนารายณ์” และใช้มาจนถึงปัจจุบัน

ผลงานเพลงดังที่ได้บันทึกเสียงและเผยแพร่ไม่ต่ำกว่า ๕๐ เพลงและมีผลงานเพลงอื่นที่นำมาร้องใหม่ กว่า ๑,๐๐๐ เพลง เมื่อ วงดนตรีพรนารายณ์ ได้ยุติลง สัญญา พรนารายณ์ จึงผันตัวเองมาเป็นนักร้องตามห้องอาหารและคาเฟ่ รวมทั้งรับจ้างบันทึกเสียงให้กับค่ายเทปต่างๆ โดยนำเพลงเก่าของตัวเอง และเพลงของนักร้องคนอื่นมาร้อง นำผลงานเพลงเก่ามาทำเป็นแนวเพลงรำวง ภายใต้ชื่อชุด “บุญหลาย” ก็ได้รับความนิยมจากแฟนเพลงลูกทุ่งเช่นเคย

ความโด่งดังของ สัญญา พรนารายณ์ เป็นที่รู้จักและชื่นชมของแฟนเพลงทั่วประเทศและยังคงครองความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยบุคลิก นิสัย เป็นคนพูดจาอ่อนหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพผู้มีพระคุณจึงเป็นที่รักใคร่ของบรรดาแฟนเพลง และยังได้รับการต้อนรับจากแฟน

เพลงทุกที่ที่ไปแสดงจากเกียรติคุณในการแสดงและการขับร้องเพลงลูกทุ่งเป็นที่ประจักษ์ ตลอดจนการอุทิศตนช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติด้วยดีเสมอมา เป็นที่ยอมรับและถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม สัญญา พรนารายณ์ จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสานสาขาศิลปะการแสดง (ขับร้องเพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป