ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สำราญ บุบผาวาสน์ (ดนตรีร่วมสมัย แซ็กโซโฟน)

สำราญ บุบผาวาสน์

ภูมิลำเนาเดิม บ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านสร้างมิ่ง ตำบลหนองเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เกิดวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2493 ประวัติ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 4 คน ของนายบุญทัน-บุบผาวาสน์ นายสำราญเกิดในครอบครับที่เป็นหมอลำ จบการศึกษาระดับประถมศึกษา 4 จากโรงเรียนสร้างมิ่ง จึงเข้าสู่วงการหมอลำโดยได้แสดงเป็นพระเอกตอนเป็นเด็กแสดงกับคณะหมอลำคณะบ. บุญศิลป์ ตั้งแต่บัดนั้นก็ได้รวมแสดงตามบุญประเพณีในท้องถิ่นเรื่อยมาโดยใช้การเดินเท้าพร้อมกับตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงสว่างนำทาง บางครั้งก็ใช้กะบอง (ขี้ไต้)แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดหาให้ ได้ค่าจ้างคือละประมาณ 50-100 บาท แต่ไม่เกิน 300 บาท ต่อการจ้างทั้งคณะ นายสำราญได้หมอลำในอายุได้ 17 ปี จึงได้แต่งงานกลับนางหนูจณ เหล่าบุตรศรี และได้ย้ายมาอยู่คณะ ส. เสียงทอง ซึ่งเป็นหมอลำที่มีเวที เครื่องเสียง ทั้งนี้ คณะเสียงทองหาอาจารย์มาสอนดนตรี โดยมีกลองชุด เบส แอคโคเดียนแซกโซโฟนเพื่อประกวดการแสดงหมอลำโดยนายสำราญได้อาสาเป็นคนฝึกเป่าแซกโซพนไปกับคณะหมอลำตั้งแต่บัดนั้น ส่วนการคิดค้นการเป่าแซกโซโพนกับการแสดงหมอลำนั้น เกิดจากรู้จักท่วงทำนองการลำประเภทต่างๆ เป็นอย่างดี จนเป็นที่ย่อมรับและชื่นชมของผู้ชมรวมทั้งหมอลำคณะอื่น จึงได้มีการว่าจ่ายวงดนตรีไปแสดง หรือร่วมเล่นดนตรีประกอบหมอลำในการประกวดต่างๆ รวมถึงการแสดงออกอากาศในวันเสาร์-อาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์ จึงได้รู้จะกับทองมี มาลัยและได้ชักชวนไปร่วมบันทึกแผ่นเสียงชุดแรก ซึ่งตอนนั้นก็มีนักร้องที่ได้ร่วมงานกันเช่น เทพพร เพชรอุบล ร้อยเอ็ดเพชรสยาม ศักดิ์สยาม เพชรสยามเพชรชมพู และทองมี มาลัย และบันทึกแผนเสียงครั้งที่สองที่ห้องอัดคิงซาวด์ โดยมีอาจารย์สำราญ เป็นผู้เป่าแซกโซโพนประกอบในเพลง จึงเป็นที่รู้จักตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

นอกจากนั้นก็ได้เป่าแซกโซโพนให้กับศิลปินนักร้องคนอื่นๆ อีก เช่น ทองมี มาลัย ในเพลงฝากจากซาอุ บานเย็น รากแก่นลำเต้ยให้ ป. ฉลากน้อย ส่งเสริม ศักดิ์กุณา นภาเจริญ และหมอลำภูไทตังหวาย มลฤดี พรหมจักร สำราญชัย ณ อุบลฯ บุญล้อม พิกุลศรี และคณะหมอลำผญาซิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมอลำจังหวัดมุกดาหาร โดยมี สมปอง ทองเฉย เป็นเจ้าของคณะ ปัจจุบันสำราญบุบผาวาสน์ยังทำการแสดงอยู่กับวงเพชรสยามผญาซิ่ง จังหวัดมุกดาหาร