ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วันดี พลทองสถิตย์ (หมอลำอุดมศิลป์) (ลำเรื่อง)

วันดี พลทองสถิตย์

นางวันดี พลทองสถิตย์ หรือ หมอลำอุดมศิลป์ เกิดวันอาทิตย์ที่ ๒๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นบุตรคนที่ ๖ ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๑๐ คน ปัจจุบันอายุ ๖๖ ปี เกิดที่บ้านดอนธาตุ ตำบลหนองตูม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

นางวันดี พลทองสถิตย์ เป็นผู้ชื่นชอบในการแสดงหมอลำพื้นบ้านตั้งแต่วัยเด็ก และได้เข้าร่วมแสดงในคณะหมอลำ “สามัคคีรุ่งนคร” เพื่อหารายได้มาแบ่งเบาภาระของครอบครัว ด้วยเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการลำ รักในอาชีพหมอลำ เป็นผู้หมั่นฝึกซ้อม มีน้ำเสียงที่ไพเราะและเป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นที่รักของครูผู้สอนลำ

นางวันดี พลทองสถิตย์ เป็นผู้ที่มีผลงานการแสดงหมอลำนับแต่อดีตถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ได้มีโอกาสบันทึกเสียงการแสดงหมอลำเผยแพร่ผ่านรายการวิทยุ โดยรับบทเป็นตัวประกอบหลายเรื่อง เช่น

นางประกายแก้ว สินธนูปูคำ ท้าวหัวข่อหล่อ สามผัวไม่กลัวบาป เป็นต้น ปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ นางวันดี พลทองสถิต เริ่มเป็นที่รู้จักในอีสาน เมื่อได้รับบทเป็นนางเอกหมอลำ ในการแสดงหมอลำพื้นบ้านเรื่อง “ปลาบู่ทอง” หลังจากนั้น ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๐ นางวันดี พลทองสถิตย์ เป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนอีสานมากยิ่งขึ้น เมื่อได้แสดงเป็นนางเอกหมอลำเรื่อง “ขูลู – นางอั้ว” คนอีสานรู้จักนางวันดี พลทองสถิตย์ในนาม “หมอลำอุดมศิลป์” เมื่อได้ตัดสินใจตั้งคณะหมอลำ “อุดมศิลป์” เป็นของตัวเองในปีพุทธศักราช ๒๕๑๖ ด้วยความรักในศิลปะการแสดงหมอลำ หมอลำอุดมศิลป์จึงได้ยึดอาชีพ หมอลำหาเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวมาโดยตลอด โดยไม่คิดจะประกอบอาชีพอื่นใดอีกเลย

จากประสบการณ์อันยาวนานด้านการแสดงหมอลำ กอปรกับความวิริยะอุตสาหะ ความใฝ่รู้ ความสามารถในการลำและพรสวรรค์อันเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั่วไป นางวันดี พลทองสถิตย์ จึงได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้าน เป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แก่นักศึกษา สาขาดนตรีและการแสดงพื้นบ้านคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ด้วยเกียรติประวัติและความสามารถอันโดดเด่นด้านการแสดงหมอลำพื้นบ้าน นางวันดี พลทองสถิตย์ หรือหมอลำอุดมศิลป์ จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (ลำเรื่อง) ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อเป็นเกียรติประวัติ สืบไป